ภรรยาเพียงคนเดียวในรัชกาลที่ 10 มีชีวิตที่ดีที่สุดทุบตีทุกอย่าง
คนที่ 4 คู่ครองจักรพรรดินั่งแผ่นดินคน ที่ 5 ผู้นำสื่อพิไลจากมาไวไปไวจนมีทัน ได้ตั้งตัว ลำดับที่ 1 ท่านกล่าวว่าสมเด็จพระชาติที่ กำเนิดเพราะท่านนี้จักเป็นพระราชวงศ์คง อยู่นานแม้กาลเวลาจากแปรเปลี่ยนไปสักเท่า ใดก็ตามจักอยู่ด้วยกันระยะหนึ่งเพราะมี
บุญวาสนาทั้งสองพระองค์มีมาเท่านั้น ลำดับที่ 2 ท่านกล่าวว่ามีบุตรมากแต่ บุญวาสนาไม่นำส่งเพราะจากเป็นคนที่รักมาก ที่สุดในทั้ง 5 พระองค์แต่จากเดิมกีดกัน หลายอย่างและผลกรรมที่ทำไว้จะมีบุตร 4 คน อันนี้ขอเพิ่มเติมว่าคิดว่าข้อนี้ยังไม่ ตรงเพราะมีบุตร 5 คน ลำดับที่ 3 ท่านกล่าวว่ามาที่ไหนกลับไป
ที่นั่นพระองค์นี้จักมีบุญมากและวาสนาที่ ได้กระทำร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อนและจัก เป็นคนที่พระองค์ที่ทรงเมตตามากที่สุด ด้วยผลบุญนั้นจากเลขกลับมาอีกครั้งหรือมิ ได้กลับมาขึ้นอยู่ตามบุญและวาสนาหากกลับ มาแค่เวลาในช่วงหนึ่งเท่านั้น ลำดับที่ 4 คู่ครองจักรพรรดินั่งแผ่นดิน
จากเป็นผู้มีบุญและบารมีมากจักได้นั่ง แผ่นดินคู่บารมีวาสนาสูงเด่นและจักเป็น ผู้ทั้งปกป้องและหนุนนำสมกับวาสนาราชินี สยามบุญวาสนาจากค่อยเป็นค่อยไปดั่งดอกไม้ ผลิแต่มิอาจจะเทียบเท่าบุญญาธิการองค์ กษัตริย์พึงต้องหาหนึ่งชีวิตและหนึ่งพืช เพื่อสิริมงคล ลำดับที่ 5 ท่านกล่าวว่าผู้นำศิวิไลจากมา
ไวไปไวจนนิรันดร์ตั้งตัวเพราะมิอาจจะสู้ บุญญาธิการองค์กษัตริย์สำหรับบุคคลที่ 5 อาจจะไม่เกิดก็ได้เพราะมีแต่วาสนาไม่มี บุญบารมีส่วนลำดับที่ 4 และลำดับที่ 5 นั้นท่านอธิบายว่าถ้ามีสื่อดีอาจจะไม่มี ค่าเพราะมีแต่วาสนาแต่ไม่มีบุญบารมีและ นี่ก็คือคำทำนายของพระเกจิลึกลับท่าน
หนึ่งที่ได้มีการแชร์อย่างมากมายในโลก ออนไลน์ที่เราได้นำมาฝากกันค่ะ และถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 62 Facebook ของนายไพศาลพืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกก็ได้มีการ โพสต์ผ่าน Facebook เรื่องเกี่ยวกับคำ ทำนายเหมือนกันซึ่งทั้งผู้ฟังเคยได้ยิน
ไหมเกี่ยวกับคำทำนายศาลหลักเมืองคุณสงขลา 3 คนจะเป็นใหญ่มีแผ่นดินซึ่งเนื้อหาใน Facebook ที่คุณไพศาลพืชมงคลได้เคยโพสต์ ไว้โดยมีการนำภาพเนื่องในพระราชพิธี บรมราชาภิเษกช่วงหนึ่งมาประกอบข้อความ ซึ่งภาพนั้นปรากฏพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีขณะ
ที่ข้อความที่พบก็ได้มีการหยิบยกเอาคำ พยากรณ์ศาลหลักเมืองสงครามมาเปิดเผยไป ด้วยทั้งหมดจะปลูกไว้ว่า คำพยากรณ์ศาลหลักเมืองสงครามเมื่อครั้ง ตั้งศาลหลักเมืองสงขลาเจ้าพ่อหลักเมือง ได้พยากรณ์ไว้เป็นสำคัญว่าในอนาคตกาลจะมี คนสงคราม 3 คนเป็นใหญ่กว่าใครในแผ่นดินมา
ถึงตอนนี้คำพยากรณ์นั้นเป็นจริงถึง 2 คน คนสงขลาคนแรกคือเจ้าพระยา ธรรมาธิเบศร์จิตณสงขลาซึ่งดำรงตำแหน่ง เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดินและคนถัดมา ก็คือพลเอกเปรมติณสูลานนท์ซึ่งเคยดำรง ตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและมีชื่อเสียง หรือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตต่อแผ่นดิน
จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยเป็นประธาน องคมนตรีคงเหลือแต่คนที่ 3 เท่านั้นว่าจะ เป็นผู้ใด แต่ก็เชื่อมั่นว่าน่าจะเป็นจริงตามคำ พยากรณ์นั้นและได้แก่ภาวนาว่าคนสงครามคน ที่ 3 จะเป็นใหญ่กว่าใครในแผ่นดินตามคำ พยากรณ์ของเจ้าพ่อหลักเมืองจะต้องเป็นคุณ ยายจริงด้วยและดีจริงด้วย
หลังตั้งศาลหลักเมืองสงครามไม่นานพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จ พระราชดำเนินไปสักการะศาลหลักเมืองสงขลา หรือวาระที่เสสภาพภาคใต้และจังหวัดสงขลา จากหนังสือสมเด็จโดยเรียงพิทยาคม 24 กันยายน 51 พลเอกหญิงสมเด็จพระนางเจ้าสุทธิดา
พัชรสุธาภิมลลักษณ์พระบรมราชินีเป็นพระ อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้า อยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้าสุทธิดาภัทร สุธาภิมลลักษณ์พระบรมราชินีเสด็จพระ ราชสมภพเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนพ.
ศ 2521 มีพระนามเดิมว่าสุธิดาจิตใจ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา ภัทรสุธาภิมลลักษณ์พระบรมราชินีทรงสำเร็จ การศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตร์บัณฑิตจากคณะ นิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเมื่อปี พ.ศ 2543 ทรงสมภพที่บ้านพรุทางไปด่านนอก สะเดาอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 มีพระราชโองการให้สถาปนาพลเอกหญิง
สุธิดาวชิราลงกรณ์ณอยุธยาพระอัครมเหสี เป็นสมเด็จพระราชินีสุธิดาทรงดำรงตำแหน่ง พระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ภายหลังที่ได้ทรงประกอบพระราชพิธี ราชาภิเษกสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยใน วันเดียวกันนั้นมีพระราชพิธีราชาภิเษก
สมรสและสถาปนาสมเด็จพระราชินีณพระที่นั่ง อัมพรสถานพระราชวังดุสิต ต่อมามีการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมพระบาทสมเด็จ พระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระ บรมราชโองการโปรดเกล้าให้ประกาศสถาปนา เฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสุธิดา ขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสุทธิดาพัชร สุธาพิมละพระบรมราชินี