การคาดการณ์ครั้งใหญ่-พลังแห่งราชินี - Thai News

การคาดการณ์ครั้งใหญ่-พลังแห่งราชินี

การคาดการณ์ครั้งใหญ่-พลังแห่งราชินี

แลกคำพูดนี้ิได้มีเจตนาเม็นพระ บรมเดชานุภาพแต่อย่างใดเพียงบอกเล่าต่อๆ กันมาตั้งแต่นานแล้วคำบางคำอาจมีการ เปลี่นแปลงให้สงพระเกียรติในการเ็คำพูด พระเกจิจึงทำนายว่าจักมีพระชายาทั้งหมด 5 พระองค์เท่านั้นเพราะว่าเป็นคู่กรรมคู่

พระบารมีของพระองค์ ท่านลำดับที่ 1 ท่านกล่าวว่าสงพระชาติที่ กำเนิดเพราะท่านนี้จักเป็นพระราชวงศ์คง อยู่นานแม้กาลเวลาจักแปรเปลี่ยนไปสักเท่า ไหร่ก็ตามจักอยู่ด้วยกันระยะหนึ่งเพราะมี บุญวาสนาทั้งสองพระองค์มีเท่า นั้นลำดับที่ 2 ท่านกล่าวว่ามีบุตรมากแต่

บุญวาสนาไม่นำทรงเพราะจักเป็นคนที่รักมาก ที่สุดในทั้ง 5 พระองค์แต่จักโดนจิตกัน หลายอย่างและผลกรรมที่ทำไว้จะมีบุตร 4 คน ลำดับที่ 3 ท่านกล่าวว่ามาที่ไหนกลับไป

ที่นั้นพระองค์นี้จักมีบุญมากและวาสนาที่ ได้กระทำร่วมกันมาแต่ชาติต่างก่อนและจัก เป็นพระองค์ที่ทรงเมตตามากที่สุดด้วยผล บุญนั้น จักได้กลับมาอีกครั้งตามบุญและวาสนาใน ช่วง หนึลำดับที่ 4 ท่านกล่าวว่าคู่ครอง จักรพรรดินางแผ่นดินจักเป็นผู้มีบุญและ

บารมีมากอาจจะได้นั่งแผ่นดินผู้บารมี วาสนาสูงเด่นและจักเป็นผู้ทั้งปกป้องและ หนุนนำสมกับวาสนราชินี สยามุ่นวาสนาจะค่อยเป็นค่อยไปดังดอกไม้ ผลิแต่มิอาจจะเทียบเท่าบุญญาธิการองค์ กษัตริย์พึงต้องหา 1 ชีวิตและ 1 พืเพื่อ ความเป็น

สิริมงคลลำดับที่ 5 ท่ากล่าวว่าผู้นำ ศิวิไลจักมาไว้และไปไว้จนไม่ทันได้ตั้ง ตัวเพราะมิอาจจะสู้บุญญาธิการองค์ กษัตริย์พึงต้องหา 1 ชีวิตมนุษย์และ 1 พืชเพื่อความเจริญเพื่อความเป็น สิริมงคลสำหรับบุคคลที่ 5 อาจไม่เกิดก็ ได้เพราะมีแต่วาสนาไม่มีบุญ

บารมีส่วนลำดับที่ 4 และลำดับที่ 5 นั้น ท่านอธิบายว่าถ้ามี4ดีอาจจะไม่มี 5 วาสนา นำพาให้บรรจบเพราะ 4 และ 5 จือว่าเป็นผู่ นั่งแผ่นดินและท่านกล่าวไว้ว่าเนื่องโดย พระบรมเดชานุภาพ และพระปารมีที่สูงสรงในการจักเป็นคู่นั่ง บารมีนั้นจึงจักต้องมีสิ่งที่เสริมระชตา เพื่อให้เป็นการนุ้นนำจึงมีผู้ถามว่า

เพราะอะไรหากถามว่าบุญวาสนาและบารมีนั้น มีมากแต่เพียงไม่อาจจะหมายเทียบเทียมพระ บรมเดชานุภาพ และพระบารมีที่สูงสูงทรงได้มากนั้นจึง จำเป็นต้องหาสิ่งที่จะกล่าวมานี้และเป็น การหนุนดวงพระชะตาทั้งคู่ในด้านความรัก

ให้ยืนยาวและราชาคนเก็บไว้เป็นการหนุน ซึ่งพระ บารมีถามว่าสำคัญที่จะต้องหาท่านบอกว่า สำคัญอยู่นะท่านจึงอุปมาอุปมัย มงกุฎเพชรเมื่อขาดเพชรไปสักเม็ด ก็อย่างเรียกว่ามงกุฎเพชรแต่ไม่สมบูรณ์ แหวนพลอยเมื่อพลอยหายก็ยังเรียกว่าแหวน ฉันใดฉันนั้นสิ่งที่ฉันจะบอกไปนี้ฉันคง

ไม่เห็นแล้วคงจะตายก่อนมีบุญได้เห็นจึงขอ จักทำนายไว้้ว่าหนึ่งชีวิตมนุษย์พึงจัก ต้องเลี้ยงเหมือนลูกในอุธรณ์ซึ่งอาจจะไม่ เกิดขึ้นในเวลานั้น [เพลง] ก็แปลว่าบุญวาสนานั้นไม่ถึงที่จักเป็น บรมราชินีลำดับที่ 4 หรือ 5 เพิ่งต้องหา ตามฟามลิขิตเด็กผู้ที่เกิดในวันที่พระบาท

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระ ราชสมภพและต้องเกิดเดือนที่เป็นเดือนพระ ราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตพระ บรมราชินีนาถและมีนักกษัตริย์ปีจอเป็นที่ พึ่งและมักจะเกิดในเหล่าแห่งธรรมมากกว่า โลกิยะมีสัญลักษณ์ที่นิ้วนางขวาเป็นที่

บ่งบอกและมีติงตาติดไว้เบื้องซ้าย้าหาได้ จักเป็นมงคลยิ่งแต่จักยอมเป็นลูกใน อุทธรณ์หรือเปล่านี้ไม่ทราบ แน่และส่วนต้นไม้นั้นพิ่งกล่าวแตกต่างกัน ลำดับที่ 4 ให้ปลูกต้นไฟสีสุขพร้อมกับ บุคคลที่กล่าวมาส่วนต้นไม้ลำดับที่ 5 ให้ ปลูกต้นโพธิ์พร้อมกับคนที่กล่าวมาแล้ว

นั้นนั่งจากการทำนายนี้มีมาก่อนแล้วทาง ผู้จัดทำเพียงแค่นำเสนอให้เกิดแต่สิ่งดีๆ ต่อสถาบันพระ มหากษัตริย์และเป็นโอกาสเหมาะที่จะนำเสนอ เพราะเป็นช่วงที่ว่างจากการมีพระชายาทั้ง นี้มีข้อที่ทำนายผิดอยู่ 1 อย่างคือลำดับ ที่ 2 บอกว่าจักมีบุตร 4 คนซึ่งความเป็น จริงและมี 1 พระองค์กับ 4 ท่านซึ่งเกิด

จากคนสุจารินี วิวัชรวงศ์ บุคคลที่ 4 หรือ 5 นั้นถ้าสรุปง่ายๆเธ ต้องหาเด็กที่เกิดวันที่ 5 สิงหาคมถ้ามี ก็น่าจะประมาณปี 2537 เพราะปี 2537 เป็นปีจอแต่จะมีลักษณะอย่างที่ กล่าวมาหรือเปล่านั้นต้องรอหาดูก่อนค่ะ ไม่งั้นก็ในปี 2549 คาดว่าช่วงประมาณอายุเพราะว่าการ

ตามหาแปลว่าต้องเกิดแล้วคำทำนายเป็นจริง แล้วเปิดคำพยากรณ์ศาหลักเมืองคนสงขลา 3 คนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินคำพยากรณ์ศาลหลัก เมืองสงขลาเมื่อครั้งตั้งสาหลักเมืองเจ้า พ่อหลักเมืองได้พยากรไว้เป็นสำคัญ

ว่าในอนาคตกาลจะมีคนสงขรา 3 คนเป็นใหญ่ กว่าใกในแผ่นดินมาถึงเวลานี้คำพยากรณ์ นั้นเป็นจริงแล้วถึง 2 คน คนสงขลาคนแรกคือเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้สำเร็จราชการ แผ่นดินและคนถัดมาก็คือพลเอกเปรมเจร สูลานนท์ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

และมีชื่อเสียงในเรื่องความซื่อสักดิ์ สุจริตต่อแผ่นดินจนได้รับความไหว้วางพระ ราชหฤทัย ให้เป็นประธานองคมนตรีคงเหลือแต่คนที่ 3 เท่านั้นว่าจะเป็นผู้ ใดแต่ก็เชื่อมั่นว่าน่าจะเป็นจริงตามคำ

พยากรณ์นั้นและได้แต่ภาวนาว่าคนสงขลาคน ที่ 3 ที่จะเป็นใหญ่กว่าใครในแผ่นดินตาม คำพยากรณ์ของเจ้าพ่อหลักเมืองจะต้องเป็น คนใหญ่จริงด้วยและดีจริงด้วย หลังตั้งศาหลักเมืองสงขลาไม่นานพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จ

พระราชดำเนินไปสักกาสารหลักเมือง สงขลาในวาระที่เสด็จประภาสภาคใต้และ จังหวัด สงขลาจากหนังสือเศษสมเด็จโดยเรื่อง วิทยาคม 24 กันยายน 2551 พลเอกหญิงสมเด็จพระหนังเจ้าสุธิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์พระ

บรมราชินี เดิมสุธิดาติด ใจเป็นพระอัตรมเหสีในพระบาทสมเด็จพระ วชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้า สุธิดา พัชรสุธาพิมลลักษ์พระ บรมราชินีเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2521 มีพระนามเดิมว่าสุธิดาติด ใจสมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาพัชรสุธาผุมนต

ลักษ์พระ บรมราชินีทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรนิเวศ สาสตร์บัณฑิตจากขณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย อสัมชันเมื่อปีพุทศักราช 2543 ทรงสมภพที่ตำบลบ้านพุทางไปด่านนอก สะเดาอำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา

YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=j5445mcWJQY

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *